\documentclass[DIV=12,%
BCOR=0mm,%
headinclude=false,%
footinclude=false,open=any,%
fontsize=10pt,%
oneside,%
paper=210mm:11in]%
{scrbook}
\usepackage[noautomatic]{imakeidx}
\usepackage{microtype}
\usepackage{graphicx}
\usepackage{alltt}
\usepackage{verbatim}
\usepackage[shortlabels]{enumitem}
\usepackage{tabularx}
\usepackage[normalem]{ulem}
\def\hsout{\bgroup \ULdepth=-.55ex \ULset}
% https://tex.stackexchange.com/questions/22410/strikethrough-in-section-title
% Unclear if \protect \hsout is needed. Doesn't looks so
\DeclareRobustCommand{\sout}[1]{\texorpdfstring{\hsout{#1}}{#1}}
\usepackage{wrapfig}
% avoid breakage on multiple
and avoid the next [] to be eaten
\newcommand*{\forcelinebreak}{\strut\\*{}}
\newcommand*{\hairline}{%
\bigskip%
\noindent \hrulefill%
\bigskip%
}
% reverse indentation for biblio and play
\newenvironment*{amusebiblio}{
\leftskip=\parindent
\parindent=-\parindent
\smallskip
\indent
}{\smallskip}
\newenvironment*{amuseplay}{
\leftskip=\parindent
\parindent=-\parindent
\smallskip
\indent
}{\smallskip}
\newcommand*{\Slash}{\slash\hspace{0pt}}
% http://tex.stackexchange.com/questions/3033/forcing-linebreaks-in-url
\PassOptionsToPackage{hyphens}{url}\usepackage[hyperfootnotes=false,hidelinks,breaklinks=true]{hyperref}
\usepackage{bookmark}
\usepackage[thai,shorthands=off,provide*=*]{babel}
\babelfont{rm}[Path=/usr/share/fonts/opentype/freefont/,%
BoldFont=FreeSerifBold.otf,%
BoldItalicFont=FreeSerifBoldItalic.otf,%
ItalicFont=FreeSerifItalic.otf]{FreeSerif.otf}
\babelfont{tt}[Scale=MatchLowercase,%
Path=/usr/share/fonts/truetype/cmu/,%
BoldFont=cmuntb.ttf,%
BoldItalicFont=cmuntx.ttf,%
ItalicFont=cmunit.ttf]{cmuntt.ttf}
\babelfont{sf}[Scale=MatchLowercase,%
Path=/usr/share/fonts/truetype/cmu/,%
BoldFont=cmunsx.ttf,%
BoldItalicFont=cmunso.ttf,%
ItalicFont=cmunsi.ttf]{cmunss.ttf}
\renewcommand*{\partpagestyle}{empty}
% global style
\pagestyle{plain}
\usepackage{indentfirst}
% remove the numbering
\setcounter{secnumdepth}{-2}
% remove labels from the captions
\renewcommand*{\captionformat}{}
\renewcommand*{\figureformat}{}
\renewcommand*{\tableformat}{}
\KOMAoption{captions}{belowfigure,nooneline}
\addtokomafont{caption}{\centering}
\deffootnote[3em]{0em}{4em}{\textsuperscript{\thefootnotemark}~}
\addtokomafont{disposition}{\rmfamily}
\addtokomafont{descriptionlabel}{\rmfamily}
\frenchspacing
% avoid vertical glue
\raggedbottom
% this will generate overfull boxes, so we need to set a tolerance
% \pretolerance=1000
% pretolerance is what is accepted for a paragraph without
% hyphenation, so it makes sense to be strict here and let the user
% accept tweak the tolerance instead.
\tolerance=200
% Additional tolerance for bad paragraphs only
\setlength{\emergencystretch}{30pt}
% (try to) forbid widows/orphans
\clubpenalty=10000
\widowpenalty=10000
% given that we said footinclude=false, this should be safe
\setlength{\footskip}{2\baselineskip}
\setlength{\parindent}{15pt}
\title{อนาธิปไตย 101}
\date{}
\author{Anonymous}
\subtitle{}
% https://groups.google.com/d/topic/comp.text.tex/6fYmcVMbSbQ/discussion
\hypersetup{%
pdfencoding=auto,
pdftitle={อนาธิปไตย 101},%
pdfauthor={Anonymous},%
pdfsubject={},%
pdfkeywords={}%
}
\begin{document}
\begin{titlepage}
\strut\vskip 2em
\begin{center}
{\usekomafont{title}{\huge อนาธิปไตย 101\par}}%
\vskip 1em
\vskip 2em
{\usekomafont{author}{Anonymous\par}}%
\vskip 1.5em
\vfill
\strut\par
\end{center}
\end{titlepage}
\cleardoublepage
\tableofcontents
% start a new right-handed page
\cleardoublepage
\textbf{“อนาธิปไตย”} คำนี้มักไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่สำหรับผู้ที่เคยเห็นคำนี้มาแล้ว ก็มักเชื่อกันว่า อนาธิปไตย = ความโกลาหล แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมาก
\textbf{อนาธิปไตย} หรือ \textbf{Anarchism} เป็นแนวคิดเพื่อสร้างสังคมแบบไร้รัฐ ไร้ลำดับชั้นการปกครอง ไม่มีผู้ปกครอง ไม่มีผู้บังคับใช้กฎหมาย นั่นหมายถึง ทุกคนในสังคมจะมีอำนาจและมีความเท่าเทียม เพราะปราศจากการบังคับ กดขี่ และการขูดรีด ระบบอำนาจและทรัพยากรในสังคมจะถูกกระจายอย่างทั่วถึง ไม่ใช่กระจุกตัวและถูกผูกขาดจากคนกลุ่มเดียว
กล่าวอีกแบบคือ สังคมอนาธิปไตย (Anarchy) คือสังคมที่ประชาชนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่มีรัฐบาล และชนชั้นปกครอง โดยอาจอยู่ร่วมกันแบบคอมมูน (Commune) ที่มีประชาธิปไตยทางตรงภายใน
\textbf{นักอนาธิปไตย (Anarchism)} มักปฏิเสธอำนาจของรัฐบาล เป้าหมายร่วมของนักอนาธิปไตย คือการล้มล้างรูปแบบรัฐ เพื่อสร้างสังคมไร้รัฐ เพราะอำนาจรัฐนั้นเป็นอำนาจแห่งการครอบงำ และเป็นรูปแบบการกดขี่รูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเผด็จการยึดอำนาจ หรือรัฐบาลประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลสามารถกลายเป็นทรราชได้ตลอดเวลา เพียงเพื่อรับใช้ผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม และนักอนาธิปไตยเชื่อว่า มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบและเสมอภาค โดยไม่จำเป็นต้องมีอำนาจรัฐมาบังคับได้
นักอนาธิปไตยส่วนใหญ่มักเป็นนักอนาธิปไตยสายสังคม (social anarchist) เช่น นักอนาธิปไตย-คอมมิวนิสต์ (anarcho communist), นักอนาธิปไตยสหกรณ์นิยม(anarcho-syndicalist) และยังมีอีกหลายสายมากมาย เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือล้มล้างรูปแบบการกดขี่ทางสังคมทั้งหมด ไม่เพียงแค่รัฐ แต่รวมถึงระบบทุนนิยม นายจ้าง และระบบปิตาธิปไตยด้วย
\section{\textbf{อนาธิปไตย และมาร์กซิสม์}}
นักอนาธิปไตยและชาวมาร์กซิสต์มีจุดร่วมกันคือ การล้มล้างชนชั้น การกดขี่ทุกรูปแบบ และระบบทุนนิยม แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างกันในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการจัดตั้ง และมุมมอง
ในด้านการจัดตั้ง มีหลายความเชื่อที่ว่า อนาธิปไตยเน้นการเคลื่อนไหวแบบกระจัดกระจาย ไม่มีการจัดตั้งองค์กร แต่ความจริงแล้ว อนาธิปไตยก็สามารถจัดตั้งองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิวัติได้เช่นกัน แต่องค์กรแบบอนาธิปไตย ไม่ใช่องค์กรรูปแบบเดียวกันกับชาวมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์ (Marxist-leninist) ที่เน้นการจัดตั้งในรูปแบบ “พรรค”
ในด้านมุมมองต่อรัฐนั้น อนาธิปไตยมองว่า อำนาจรัฐเป็นสิ่งที่ต้องถูกกำจัด เราสามารถจัดการรูปแบบทางสังคมโดยไม่ต้องมีรัฐบาลได้ แต่สำหรับชาวมาร์กซิสต์แล้ว พวกเขาจำเป็นต้องช่วงชิงอำนาจรัฐ นั่นคือการสร้างรัฐกรรมาชีพขึ้นมา และจะรอจนอิทธิพลของทุนนิยมสลายไป หรือเมื่อสังคมพร้อม รัฐกรรมาชีพจะสลายไปและเข้าสู่สังคมไร้รัฐ
ชาวมาร์กซิสต์มักวิจารณ์ฝ่ายอนาธิปไตยอยู่เสมอ ๆ ว่าเป็นพวกเพ้อฝัน ไม่ยึดติดกับสภาพความเป็นจริง หรือเป็นพวกจิตนิยม แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีฝ่ายอนาธิปไตยบางส่วนที่ยึดมั่นในหลักวัตถุนิยมแบบมาร์กซิสต์ อีกทั้งยังมีการนำหลักแนวคิดบางอย่างจากมาร์กซิสม์มาปรับใช้อีกด้วย
มีหลายคนเชื่อว่า สังคมแบบอนาธิปไตยและสังคมคอมมิวนิสต์สมบูรณ์ คือสังคมแบบเดียวกัน คือสังคมไร้รัฐ ไร้ชนชั้น ไร้เงินตรา นั่นเอง
\section{\textbf{ข้อถกเถียงเกี่ยวกับอนาธิปไตย}}
\subsection{1) อนาธิปไตยจะเต็มไปด้วยความโกลาหล ?}
สังคมอนาธิปไตยนั้น ไม่ใช่สังคมที่ไร้กฎเกณฑ์ เราไม่มีรัฐบาลก็จริง ดังนั้นเราจะไม่มีกฎหมายที่ควบคุมจากรัฐ แต่เรายังคงมีกฎทางสังคม ที่คนในสังคมทั้งหมดร่วมกันร่างและออกแบบเพื่อรักษาความสงบในสังคม สังคมจะสงบสุขได้ ไม่ใช่เพราะกฎหมายและการบังคับ แต่เพราะคนในสังคมเคารพและพึ่งพากัน และไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่คนในสังคมจะแหกกฎที่พวกเขาตั้งขึ้นเอง
หัวใจหลักของอนาธิปไตยคือ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (empathy และ sympathy) สังคมอนาธิปไตยนั้นเน้นการอยู่ร่วมกันแบบช่วยเหลือและแบ่งปัน เราแบ่งปันเพราะเห็นใจผู้อื่น เราเคารพผู้อื่น เพราะเขาสมควรได้รับการเคารพ
\emph{“หากคุณหิว เราจะแบ่งอาหารให้”}
\emph{“หากคุณขาดเสื้อผ้า เราจะมอบให้”}
\emph{“หากคุณต้องการให้ช่วย เราจะช่วย”}
\emph{“เราช่วย ไม่ใช่เพราะหวังผล”}
\emph{“เราช่วย ไม่ใช่เพราะกลัวการลงโทษ”}
\emph{“เราช่วย เพราะทุกคนสมควรได้รับมัน”}
เรื่องพวกนี้มันอาจฟังดูเป็นอุดมคติ แต่หากมองในสังคมปัจจุบันแล้ว การกระทำเหล่านี้ก็เกิดขึ้นทุกวันในสังคมเช่นกัน มันเป็นเรื่องปกติในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปัน ช่วยเหลือ หรือแม้แต่การเคารพผู้อื่น
\subsection{2) นักอนาธิปไตยเป็นพวกหัวรุนแรง ?}
นักอนาธิปไตยไม่จำเป็นต้องมีแนวทางแบบเดียวกันเสมอไป บางคนก็เน้นสันติวิธี บางคนก็เน้นแนวทางแบบ radical เช่นเดียวกันกับกลุ่มเคลื่อนไหวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสรีนิยม หรือสังคมนิยม-มาร์กซิสต์ ก็ต่างสามารถใช้วิธีแบบรุนแรงได้เช่นกัน เพราะผู้มีอำนาจมักไม่ยอมลงจากหอคอยงาช้างแบบง่าย ๆ และสันติวิธี ไม่ใช่ทางออกเสมอไป
\subsection{3) สังคมไร้รัฐ เป็นไปได้หรือไม่ ?}
ในอดีต ช่วงของสงครามกลางเมืองสเปน สังคมแบบอนาธิปไตยได้บังเกิดขึ้น เนื่องจากการรวมตัวขององค์กร CNT-FAI และการร่วมมือของชนชั้นแรงงานในการเข้าควบคุมและยึดโรงงาน พร้อมเปลี่ยนรูปแบบทางสังคมเป็นแบบอนาธิปไตยแบบสหกรณ์นิยม หรือสหการณ์อนาธิปไตย
และในปัจจุบันเอง ยังคงมีสังคมโรจาวาในซีเรีย (Rojava) ซึ่งเป็นสังคมกึ่งไร้รัฐ ที่รัฐบาลไม่มีอำนาจออกคำสั่ง รูปแบบอำนาจกลายเป็นล่างขึ้นบน ที่มีประชาธิปไตยทางตรง มีการกระจายทรัพยากร ไม่มีการผูกขาดความรู้โดยรัฐและผู้เชี่ยวชาญ คณะกรรมการด้านต่าง ๆ โดนปลดได้ตลอดเวลา และคนในสังคมอยู่ร่วมกันได้ด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน และการแบ่งปัน เราสามารถเรียกโรจาวาได้ว่าเป็น ประชาธิปไตยไร้รัฐ หรืออนาธิปไตย
สังคมเหล่านี้จะเกิดขึ้นล้วนต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงของคนในสังคม สังคมใหม่นั้นไม่อาจก่อตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่ต้องเกิดจากการต่อสู้ปลดแอกของชนชั้นผู้ถูกกดขี่
Viva la anarchist!
Viva la commune!
% begin final page
\clearpage
% new page for the colophon
\thispagestyle{empty}
\begin{center}
\smallskip
Anti-Copyright
\bigskip
\includegraphics[width=0.25\textwidth]{/var/lib/amusewiki/repo/sea/site_files/sea_pdf_image.png}
\bigskip
\end{center}
\strut
\vfill
\begin{center}
Anonymous
อนาธิปไตย 101
\bigskip
Submitted by author.
\bigskip
\textbf{sea.theanarchistlibrary.org}
\end{center}
% end final page with colophon
% end closing pages
\end{document}
% No format ID passed.